หนี้สิน เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นหรืออยากให้มีด้วยกันทั้งนั้น ทั้งหนี้บ้านหนี้รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ เป็นหนี้ในระบบ หนี้บ้านเราผ่อนกับแบ้งค์ที่เราเอาบ้านเข้าธนาคารตอนทำสัญญาซื้อขายบ้านโดยตรง ขึ้นอยู่กับว่าบ้ านของเรา มีราคาเท่าไหร่ ระยะเวลาในการผ่อนบ้านกี่ปี และรายได้ของเราเท่าไหร่ เช่น เงินเดือนของเรา 20,000 บาท ผ่อนบ้านเดือนละ 12,000 บาท เราจะเหลือเงินอีก 8,000 บาท เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นหนุ่มโสดสาวโสดที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำงานได้ไม่กี่ปี ยังไม่มีแฟน ไม่มีครอบครัว ไม่มีลูกต้องส่งเสียเล่าเรียน ตอนแรกๆ อยากซื้อบ้านและมีภาระต้องผ่อนบ้านเป็นระยะเวลา 20-30 ปี ต้องรีบผ่อนตั้งแต่ยังผ่อนไหว เช่น 10 ปีแรกก็ผ่อนไปเดือนละ 12,000 บาท และเมื่อเราได้โบนัสมาสักก้อนหนึ่ง 5-6หมื่นบาท เราก็เอาโบนัสของเราที่ออกเป็นประจำทุกปี โปะเข้าไปอีกทีนึง ฉะนั้นแล้วเงินต้นของบ้านของเรา ที่เรากู้กับแบ้งค์ซื้อบ้านเอาไว้ เราก็จะเหลือน้อยลง หรือทุก 3 ปี เราเข้าไปที่แบ้งค์ที่เรากู้ซื้อบ้าน ผ่อนบ้านกับแบ้งค์นั้นอยู่ ปรับดอกเบี้ยเป็นประจำทุก 3 ปี เพื่อให้เราได้ดอกเบี้ยถูกลง เราจะได้เป็นเงินต้นเยอะหน่อย หรือใครที่เงินเดือนขึ้นทุกปี นอกจากได้โบนัสแล้ว เช่น ปกติเราส่งทุกเดือนจากเงินเดือน แต่ปีนี้ เงินเดือนของเราได้ปรับขึ้น 22,000 บาท เราก็ส่งเพิ่มอีก 3พัน จากที่เราส่งเพิ่ม จะไปทำการตัดเงินต้นให้ลดลง ทำแบบนี้ จากเดิมที่ระยะเวลาการกู้ซื้อบ้านของรา 20-30 ปี บ้านของเราก็จะหมดเร็วขึ้น เป็น 10-15 ปี
ปลดหนี้ 1แสนบาทในเวลา 1ปี
หนี้ในระบบตั้งแต่ 100,000 บาท วิธีการชำระหนี้สินในระบบให้หมดในระยะเวลาเพียง 1 ปีทำได้โดย ถ้าเรามีเงินเดือนๆละ 15,000 อยากใช้หนี้ในระบบให้หมด แนะนำว่าให้หารายได้เพิ่มจากเดิม หารายได้เพิ่มจากเงินเดือนหรืองานประจำ เป็น 15,000-20,000 บาท เมื่อหาได้เงินละ 15,000-2หมื่นบาทแล้ว เราก็ดูว่าเรามีหนี้กี่แห่งกี่เจ้า เจ้าละเท่าไหร่ ให้เราจดเรียงเอาไว้เลย แห่งละเท่าไหร่ จากมากไปหาน้อย 3หมื่น , 2หมื่น , หนึ่งหมื่นกว่าบาท , เก้าพันกว่าบาท
จ่ายหนี้ด้วยหลัก จ่ายจากน้อยไปหามาก
3แห่งแรกก็จ่ายตามระบบของเขาไปก่อน เจ้าเก้าพันกว่าบาท เราเอารายได้เสริมที่เราหาได้ แล้วตัดหนี้ในระบบ เก้าพันกว่าบาทไปก่อน อย่างหนึ่ง เมื่อเราตัดหนี้ในระบบเก้าพันกว่าบาทได้แล้ว จะเหลือเงินจากรายได้เสริมอีก หมื่นบาท ให้เราเอาเงินหมื่นบาทจากรายได้เสริมที่เหลือจากหนี้ในระบบแห่งที่ 4 แบ่งจ่าย หนี้ในระบบทั้ง 3 แห่งแรก แห่งละ 3 พัน เดือนต่อไปเราเหลือหนี้ในระบบ 3 แห่ง ก็จ่ายหนี้ในระบบเจ้าที่น้อยที่สุด คือ หนึ่งหมื่นกว่าบาท เราโปะให้จบ อ่อ ลืมบอกไปว่าหนี้ในระบบแห่งที่ 4 เมื่อโปะหมดแล้ว ให้เราโทรไปบอกหนี้ในระบบแห่งที่ 4 ว่าขอปิดบัญชี เมื่อหนี้ในระบบแห่งที่ 4 ปิดบัญชีลบข้อมูลให้เรา เราก็ลบแอปพลิเคชั่นเขาทิ้งไป และหนี้ในระบบแห่งที่ 3 ก็เหมือนกัน เมื่อเราโปะหมดแล้ว เราก็โทรไปแจ้งปิดบัญชี เมื่อปิดบัญชีหมดแล้ว เราก็ลบแอปพลิเคชั่นทิ้งไป หนี้ในระบบแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ก็เหมือนกัน ทำแบบนี้ภายในระยะเวลา 1 ปี เราก็สามารถหาเงินมาใช้หนี้ในระบบที่เรามีอยู่หมดไปแล้ว เมื่อหนี้สินในระบบหมดแล้ว ถ้าเราอยากมีเงินออมเงินเก็บแล้ว เราก็หารายได้เสริมต่อไป แล้วเปลี่ยนเป็นเงินออมเงินเก็บ หรือซื้อประกันชีวิต ที่มีเงินคืนกลับมา เพื่อครบสัญญา หรือนำเงินไปต่อยอดลงทุนต่อไป
หลีกเลี่ยงหนี้สินนอกระบบ
หนี้สิน ถ้าเราคิดจะมีหนี้สิน แนะนำให้เราเป็นหนี้ในระบบดีกว่าหนี้นอกระบบครับ เพราะหนี้ในระบบ เมื่อเราส่งยอดเท่ากันทุกเดือน มันจะลดต้นให้เรามากกว่าลดดอกเบี้ย หรือถ้าเดือนไหนเราส่งไม่ไหว เราก็แค่ส่งดอกเบี้ยให้กับเขาไป หนี้ในระบบ ก็พวกบัตรกดเงินสด สินเชื่อเงินสด ไม่ใช่แอปพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบที่มันมีปัญหากันทุกวันนี้นะครับ พวกสินเชื่อเงินฉับไว สินเชื่อเงินหมุนเวียน กู้เงิน 3พันบาท ได้เงินจริง 2,200 บาท มันหักค่าดำเนินการของเราไปแล้ว 800 แล้วระยะเวลาในการใช้คืน 7 วัน แอปพลิเคชั่นพวกนี้จะดูดข้อมูลเบอร์มือถือในเครื่องของเราไป เราเมมเบอร์ใครไว้ในมือถือ พอครบ 6 วัน มันก็จะโทรมาทวงเราแล้ว บอกกับเราใกล้ครบกำหนดแล้ว ให้รีบโอนเงินคืนมัน พอวันที่ 7 ครบกำหนดใช้เงินคืน ถ้าเราโอนเงินช้า มันก็จะโทรหาเบอร์ในเครื่องเรา ที่มันดูดเบอร์เราไป ว่าเราได้ไปกู้เงินจากแอปพลิเคชั่นมัน คนที่มันโทรไปก็จะโทรมาหาเรา ว่าเราไปกู้เงินนอกระบบกับแอปพลิเคชั่นมันจริงหรือไม่ จุดประสงค์เพื่อให้เราอับอาย รีบคืนเงินมันไป ห้ามไปยุ่งกับมันเชียวนะครับ พวกนี้เป็นทุนจีนสีเทา มันจะทำงานอยู่ตามชายแดนไทย แถวประเทศเพื่อนบ้านของเรา ถ้าเงินเยอะๆ มันก็จะโทรทวงเป็นเดือน ถ้ามันโทรมาทวงแล้วเราทนได้ มันก็จะเลิกทวงไปเอง แต่แนะนำว่าอย่าไปยุ่งกับพวกนี้ อันตรายมาก
