“ ฉันเป็นโรคร่างกายบ่มสุราได้เอง ”
“ ร่างกายบ่มสุราได้เองหรือ ”
“ อ้อ เป็นโรคที่ถ้ากินคาร์โบไฮเดรตเข้าไปจะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ ”
“ อ่ะ มีโรคแบบนั้นด้วยหรือ ”
“ ไม่ใช่โรคที่เป็นแล้วตายทันทีหรอก ฉันพึ่งรู้เมื่อปีที่แล้ว กำลังรักษาที่อเมริกา แต่ว่ารีบกลับมาเลยไม่ได้เอายามาด้วย กลัวว่า ท้อปจะรู้แล้วเล่นงานฉัน ก็เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาล ”
เห็นอย่างนี้แล้วอย่าพึ่งงงกันนะคะ ฉันกำลังดูซีรี่ส์เรื่องหนึ่งอยู่ค่ะ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจกันภายในครอบครัวเกี่ยวกับธุรกิจ วันที่จะมีการแต่งตั้งนางเอกให้เป็นประธานบริษัท นางเอกกลับถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกตรวจแอลกอฮอล์ด้วยการเป่า ผลปรากฏว่าค่าแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเลยถูกจับ ( ทั้งๆที่เธอไม่ได้ดื่มสุราเลย ) เราอาจไม่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย จนมาถึงอีกฉากหนึ่งเมื่อนางเอกได้คุยกับพระเอก ซึ่งเป็นทนายส่วนตัวของเธอ เธอได้บอกว่า เธอเป็นโรคร่างกายบ่มสุราได้เอง พระเอกแปลกใจ ฉันเองก็แปลกใจเช่นกัน มีโรคแบบนี้ด้วยหรือ เธอคาดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นแผนการของฝ่ายตรงข้ามที่รู้ว่าเธอเป็นโรคนี้ จึงแอบใส่อะไรลงในน้ำดื่ม ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็น ผงคาร์โบไฮเดรต ฉันเฝ้าดูฉากนี้ด้วยความสนใจ ใคร่รู้ และสงสัย โรคนี้มีจริงหรือ โดยไม่รอให้ซีรี่ส์จบฉันลองหาข้อมูลดูทันที แล้วก็พบสิ่งที่น่าแปลกใจมากกว่า เมื่อโรคนี้มีอยู่จริงค่ะ อีกทั้งยังเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งและน่าสนใจมาก
แต่ก่อนที่เราจะเรียนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้ ฉันจะขอเล่าถึงฉากหนึ่งที่เคยไม่เข้าใจการกระทำของนางเอกมาก่อน ฉันได้ย้อนกลับไปดูเรื่องราวตอนต้นๆเรื่อง มีฉากหนึ่งที่นางเอกเข้ามาในบริษัทวันแรก ระหว่างที่นั่งคุยกันอย่างดุเดือด ก็มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น นั้นคือมีลุงคนหนึ่งมาประท้วงที่ระเบียงของดาดฟ้า เพื่อจะกระโดดฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายหัวหน้าของพวกเขาก็สามารถพูดคุยเจรจาช่วยเหลือลุงคนนั้นให้ลงมาได้ แต่เป็นการเจรจาที่หลอกลวง นางเอกได้เห็นเหตุการณ์จึงอยากช่วยเหลือลุงคนนั้น ด้วยความที่นางเอกเป็นคนมั่นๆ บ้าบิ่น จึงเดินไปแล้วฉวยเอาขนมปังของคนที่เดินอยู่มากิน หลังจากนั้นก็ขับรถมาอย่างเร็ว แกล้งเฉี่ยวลุงแล้วชนรถของลุงแทน หลังจากนั้นนางเอกก็ลงมาถามลุงว่า ” ลุงเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า ” พร้อมทั้งขอให้ลุงไปแจ้งความเรียกค่าทำขวัญจากเธอ เธอบอกว่าเธอรวย เป็นการตั้งใจฆ่า แถมยังเมาแล้วหนีด้วย พระเอกอยู่ในเหตุการณ์ แต่ก็ยังงงกับคำพูดที่นางเอกบอกว่าตัวเองเมา ซึ่งเขาเองก็ไม่เห็นว่านางเอกจะดื่มเหล้า ไปดื่มตอนไหน ทำไมค่าแอลกอฮอล์ในเลือดถึงสูง ความจริงแล้ว ฉากนี้ได้พูดถึงภาวะร่างกายบ่มสุราด้วยตัวเองที่นางเอกเป็น เพียงแต่เราไม่รู้เกี่ยวกับโรคจึงไม่เข้าใจเท่านั้นเอง แล้วโรคนี้เป็นอย่างไรล่ะ เดี่ยวฉันจะเล่าให้ฟัง
ร่างกายบ่มสุราด้วยตัวเอง เกิดขึ้นได้อย่างไร
” อาการร่างกายบ่มสุราด้วยตัวเอง ” หรือเรียกภาษาอังกฤษว่า (Auto-brewery Syndrome – ABS) เกิดจากยีสต์ในลำไส้ที่เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งมีมากเกินไป จึงทำปฏิกริยากับคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล เปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้เกิดของเสียในรูปของเอทานอล หรือแอลกอฮอล์ ออกสู่กระแสเลือด ทำให้มีอาการเหมือนคนเมาสุรา เช่น มึนเมา คลื่นไส้อาเจียน พูดจาอ้อแอ้ เหมือนคนเมาไม่มีผิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมาก เพราะมักจะถูกเข้าใจผิดว่าดื่มสิ่งของมึนเมาทั้งๆที่ไม่ดื่มอะไรเลย เหมือนดั่งที่นางเอกต้องการช่วยเหลือลุงคนนั้น จึงฉวยขนมปัง ซึ่งเป็นแป้ง คาร์โบไฮเดรตมากิน เพื่อให้เกิดปฏิกริยา และอีกครั้งที่นางเอกถูกตำรวจที่ตั้งด่านเรียกตรวจแอลกอฮอล์ด้วยการเป่า ผลปรากฏว่าค่าแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเลยถูกจับ ( ทั้งๆที่เธอไม่ได้ดื่มสุราเลย ) นั้นเพราะเธอถูกแอบใส่ ผงคาร์โบไฮเดรต ลงไปในน้ำ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคร่างกายบ่มสุราด้วยตัวเอง ควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเช่น แป้ง ขนมปัง ของหวานต่างๆ น้ำเชื่อมน้ำผลไม้ เป็นต้น
โรคนี้มีการค้นพบครั้งแรกช่วงทศวรรษ 1940 ซึ่งเป็นโรคหายาก เดิมทีมีคนไข้กรณีศึกษาอยู่ 2 รายเท่านั้น คนไข้คนแรกคือ ชายชาวจีนวัย 27 ปีผู้หนึ่งที่ไม่ได้ติดเชื้อจากยีสต์ในลำไส้ แต่ค่าแอลกอฮอล์ของเขาเกิดจากเชื้อ แบคทีเรียชื่อว่า K. pneumoniae ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้สามารถผลิตแอลกอฮอล์ได้มากเช่นกัน ส่วนคนไข้คนที่สองคือ คนไข้หญิงวัย 61 ปีผู้หนึ่งในเมืองพิตต์สเบิร์กของรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งคนนี้ไม่ได้ติดเชื้อยีสต์ที่ลำไส้ แต่กลับติดเชื้อยีสต์ที่กระเพาะปัสสาวะแทน ส่งผลให้ปัสสาวะมีกลิ่นฉุนเหมือนแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นในปัจจุบันมีคนที่เป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน โรคนี้แม้เป็นโรคหายากแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากนั้นยังสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าคุณจะไม่เคยดื่มสุรามาก่อนเลยก็ตาม แล้วเราจะสังเกตอย่างไรล่ะ ว่าเรามีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ไหม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐอเมริกาได้ให้คำแนะนำว่า ให้ทุกคนสังเกตตัวเองตอนกินอาหารที่เป็นประเภทแป้งและน้ำตาล หากกินแล้วมีอาการวิงเวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายอาการคนเมาสุรา ให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจหาสาเหตุ นอกจากนั้นผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้สังเกตกลิ่นของปัสสาวะ ซึ่งผู้มีภาวะบ่มสุราด้วยตัวเอง ปัสสาวะจะมีกลิ่นฉุนขึ้นจมูก คล้ายแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเก็บตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจสอบ แม้จะยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ แต่การรู้เร็ว รักษาเร็วเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เราต่างอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยโรคต่างๆมากมาย บางโรคอาจเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วไป ซึ่งเป็นโรคที่เราสามารถหาทางป้องกันตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงได้ แต่บางโรคกลับเป็นโรคที่หายาก อีกทั้งอาจไม่มีวิธีป้องกันหรือเลี่ยงได้ สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ การศึกษาโรคต่างๆไว้ รวมทั้งหมั่นสังเกตตัวเองบ่อยๆเพื่อที่ว่าหากพบอาการผิดปกติใดๆจะได้สังเกตเห็นทันที เพราะการรู้เร็ว รักษาเร็วเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เหมือนดั่งที่แพทย์ได้แนะนำไว้