สรุปเนื้อหาจากรายการ Money Matters EP.228
วันนี้ฉันได้ฟังยูทูปจากคุณพอล ภัครพล ศิลปาจารย์ ชื่อรายการว่า Money Matters ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับการเงินที่สนุกและมีสาระ ฟังสนุกๆ เพลินๆ ได้ความรู้และแรงบันดาลใจดีๆด้วย โดยเฉพาะEP. นี้ที่คุลพอล ได้หยิบยกเรื่องราวนิสัยที่เปลี่ยนชีวิตของเหล่าคนดังและรวยมากหลายๆคน ที่ชีวิตของพวกเขาเริ่มจากติดลบ ติดลบมากๆ แต่แล้วก็สามารถเปลี่ยนนิสัยและเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง จนกลายเป็นคนที่รวยมากจนโลกต้องกล่าวถึง มีใครบ้างนั้น และนิสัยแบบไหนที่เปลี่ยนแปลงพวกเขา เราจะสรุปแล้วเล่าให้ฟังค่ะ
นิสัยที่ 1 คือ ยืดหยุ่นเป็น
หรือเปรียบเหมือนตุ๊กตาล้มลุก ที่เมื่อใดที่ล้มก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาทันที ชีวิตของคนเราย่อมต่างกัน แน่นอนว่าคนยากจนก็มีแต้มต่อน้อย และมีโอกาสถูก knock down บ่อยกว่า เพราะฉะนั้นกว่าคนเหล่านี้จะประสบสำเร็จกลายเป็นคนที่รวยมาก เขาต้องใช้ความพยายามมากกว่าอยู่แล้ว ย่อมจำเป็นต้องเป็นคนที่มีความยืดหยุ่นสูง ยกตัวอย่างเช่นนักแสดงชื่อดัง Sylvester Stalone เขาเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนมาก และฝันที่จะเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็ก เขาจึงเขียนบทภาพยนต์เกี่ยวกับนักมวย นั้นคือเรื่อง ROCKY เขานำบทหนังนั้นไปเสนอตามที่ต่างๆ ด้วยเงื่อนไขที่แปลกคือ ต้องให้เขาแสดงเป็นพระเอก โดยต้องเป็นเขาเท่านั้น แล้วเขาก็ถูกปฏิเสธซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าแต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ตอนนั้นคือเขาจนมากถึงขนาดที่ต้องขายหมาที่ตัวเองเลี้ยงไป แต่แล้ววันหนึ่งมีค่ายหนังตอบรับทั้งบทหนังและเงื่อนไขของเขา เมื่อหนังออกฉาย หนังเรื่องนี้ได้รับความนิยมและดังมากๆ ทำให้มีรายได้ทั่วโลกมหาศาล นอกจากนั้นเขายังได้รับรางวัลออสการ์ด้วย ทำให้เขากลายเป็นคนที่รวยมากๆ แล้วเขาก็ไปซื้อหมาที่เคยขายกลับคืนมา นี่คือตัวอย่างของคนที่มีความยืดหยุ่นสูง ล้มแล้วลุก แม้ถูกปฏิเสธก็ไม่ยอมแพ้ จนได้ประสบความสำเร็จ
นิสัยที่ 2 คือ เปลี่ยนข้อด้อยเป็นข้อดี
เปลี่ยนทรัพยากรที่จำกัดและใช้สิ่งที่ตัวเองมีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวเองและผู้อื่น ตัวอย่างเช่น Lebron James นักบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของโลก และเป็นนักบาสเกตบอลคนแรกของโลกที่มี Net worth เกินพันล้านเหรียญ แต่เขาก็เริ่มต้นจากการเป็นคนที่จนสุดๆ พ่อทิ้งเขาให้อยู่กับแม่แค่สองคน ชีวิตเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากแม่ อีกทั้งรอบตัวเขาเต็มไปด้วยสิ่งไม่ดี ไม่ค้ายาก็ค้าอาวุธ แต่แม่ของเขาดีมากๆ เพราะคอยปกป้องเขาอย่างสุดกำลังที่จะไม่ให้เขาเข้าไปข้องเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น เขาเป็นคนชอบเล่นกีฬา และเก่งหลายอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกบาสเกตบอล เขาคิดว่าหากเขาจะออกไปจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ เขาต้องเป็นคนที่เก่งอย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ เขาจึงทุ่มเทให้กับบาสเกตบอล จนกลายเป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งมากๆ และดังระดับโลกเลย จนได้ฉายาว่า King James เมื่อเขามีชื่อเสียงและได้รับเงินค่าตอบแทนมากมาย เขากลับมาตอบแทนสังคมด้วยการเปิดโรงเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่ด้อยโอกาสอย่างเขาได้รับโอกาส นี่คือตัวอย่างดีๆ ของคนที่มีทรัพยากรโคตรจำกัด แต่เขากลับใช้ร่างกาย หัวใจ และความสามารถที่เขามีผลักดันให้ตัวเองไปสู่จุดสูงสุดได้
นิสัยที่ 3 คือ ทะเยอทะยาน
เป็นนิสัยที่สำคัญมากๆ เพราะความทะเยอทะยานทำให้คนที่ไม่มีอะไรเลยกลายเป็นคนรวยระดับมหาเศรษฐีมาแล้ว ตัวอย่างเช่น Jack Ma เขาเกิดในชนบทของจีนที่แร้นแค้นมาก ครอบครัวของเขายากจน แต่เขาเป็นคนที่ทะเยอทะยานตั้งแต่เด็กเพราะคิดเสมอว่าจะไม่ยอมที่จะเป็นคนจนอย่างนี่ไปตลอดแน่ๆ โชคดีที่ช่วงหนึ่งจีนได้เปิดประเทศทำให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาในประเทศจีนได้ Jack Ma คิดว่าเขาต้องเก่งภาษาอังกฤษให้ได้ เพื่อเป็นใบเบิกทาง เมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาที่หมู่บ้าน เขาจึงขี่จักรยานไปที่หมู่บ้านนั้นเป็นร้อยๆกิโล เพื่อพบนักท่องเที่ยว เขายอมเป็นไกด์เพื่อแลกกับการได้ฝึกภาษา ทำอยู่อย่างนี้เป็นสิบๆปี กลายเป็นคนจีนที่พูดอังกฤษได้เก่ง จนเป็นที่มาของชื่อ Jack Ma แล้วเขาก็เริ่มไปเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ จนวันหนึ่งได้ไปสหรัฐอเมริกา เขาได้รู้จัก Internet แล้วพอกลับมาเขาก็เริ่มเปิดเว็บไซต์ alibaba.com แล้วอย่างที่รู้กันว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยมากแค่ไหน นั้นแหละคือผลของการเป็นคนที่ทะเยอทะยาน
นิสัยที่ 4 คือ เรียนรู้ตลอดเวลา
การเรียนทำให้เกิดการเรียนรู้ แต่การเรียนรู้อาจไม่ได้มีอยู่แค่ในโรงเรียน เหมือนดั่งเจ้าของบริษัทภายใต้ชื่อ Vergin ที่มีบริษัทมากกว่า 300 ชนิด เขามีชื่อว่า Richard Branson เป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการเรียนเพราะเป็นโรค Dyslexie เป็นโรคที่เกี่ยวกับภาวะผิดปกติเกี่ยวกับการเรียนรู้ภาษา ทำให้อ่าน สะกดคำ และเขียนหนังสือไม่ได้ แม้เขาจะเป็นโรคและเรียนแค่นิดเดียว แต่เพราะความที่เขาเป็นคนที่เรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดเวลาทำให้เขาสามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นไปได้จนประสบผลสำเร็จ
นิสัยที่ 5 คือ ทำงานหนัก
เป็นเรื่องที่รู้กันว่า ถ้าไม่ยอมทำงานหนักแล้วจะรวยได้อย่างไร ฉะนั้นจึงมีหลายคนมากที่ต้องทำงานหนัก หนักมากๆกว่าจะได้กลายเป็นคนที่รวยได้ ซึ่งความหมายของคำว่าหนักของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน เรื่องราวที่ถูกยกเป็นตัวอย่างของเรื่องนี้คือ ดารานักแสดงกล้ามโต ตัวใหญ่ ชื่อดังที่มีนามว่า Arnold Alois Schwarzenegger แรงบันดาลใจของเขาเกิดจากที่เปิดนิตยสารไปเห็นดารากล้ามโตคนหนึ่งที่เป็นนักแสดงหนัง Hercules แล้วเขาก็บอกกับตัวเองว่าจะเป็นแบบนี้บ้าง ตั้งแต่นั้นเขาก็พยายามอย่างหนักเพื่อเดินตามความฝัน เขาต้องเล่นกล้ามเพื่อไปแข่งให้ชนะ แล้วจะได้เป็นนักแสดงฮอลลีวูด เขาเล่นกล้ามและชนะได้จริงๆ แต่เส้นทางการเป็นนักแสดงของเขาก็ไม่ได้ง่าย เขาไปอเมริกาเพื่อไปทำงาน เป็นกรรมกรในตอนกลางวัน แล้วกลับมาเล่นกล้ามในตอนกลางคืน ทำอย่างนี้เป็นเวลาสิบๆปี หลังจากนั้นก็เริ่มขายอาหารเสริมผ่านทางนิตยาสาร จนเริ่มมั่งมี เขาจึงเลิกเล่นกล้ามแล้วไปเป็นนักแสดงฮอลลีวูดจนได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้น เพราะเขาต้องเจอกับอุปสรรคอีกมากมาย จนสุดท้ายเขาได้แสดงเรื่อง Terminator ตัวละครที่เป็นตัวเขามากที่สุด แล้วเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะเรื่องนี้ ได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้วต้องยอมรับเลยว่า เขาคือคนที่ทำงานหนักจริงๆ กว่าจะได้มายืนตรงจุดนี้
