แรงบันดาลใจจากนักธุรกิจชื่อดัง ตัน ภาสกรนที

คุณรู้จักนักธุรกิจที่ชื่อ ตัน ภาสกรนที ไหมค่ะ เนื่องจากวันหนึ่งฉันอยากได้แรงบันดาลใจดีๆ จากนักธุรกิจ จึงลองพิมพ์คำค้นหาในกูเกิ้ลว่า แรงบันดาลใจจากนักธุรกิจชื่อดัง ผลการค้นหาที่ปรากฏออกมา มีชื่อของคุณตัน ภาสกรนที ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ฉันจึงสนใจทำความรู้จักกับนักธุรกิจท่านนี้ แล้วฉันก็พบว่าคุณตันเป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่มีเรื่องราวของชีวิตที่น่าสนใจมากๆ เรามาทำความรู้จักกับคุณตันกันดีกว่าค่ะ

เปิดประวัติความเป็นมาของคุณตัน

คุณตัน ภาสกรนที เป็นคนจังหวัดชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2502 ปัจจุบันอายุ 65 ปี มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เขาเป็นลูกคนสุดท้อง มาจากครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งพ่อ แม่ของเขาได้อพยพมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง คุณตันเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

“ในวัยเด็กเคยยืนอยู่หน้าบ้านคนอื่นที่เขากำลังดูทีวีอยู่ดู ซึ่งในขณะที่เรากำลังดูอย่างสนุกอยู่นั้น เจ้าของก็เปลี่ยนช่อง ทุกอย่างก็คือจบ“

แม้คุณตันไม่ได้พูดออกมาแต่คำบอกเล่านี้ก็แสดงให้รู้สึกว่าการไม่มีอะไรเป็นของตัวเองนั้นไม่สนุก เพราะแม้ว่าอยากจะดูเรื่องนั้นต่อให้จบยังไงก็ไม่สามารถดูได้ นอกจากนั้นเขายังเล่าถึงความทุกข์ใจของแม่ในทุกๆ สิ้นเดือน ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าแม่กำลังทุกข์เรื่องอะไร จนเมื่อโตขึ้นเขาจึงรู้ว่าแม่กำลังทุกข์เรื่องที่ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน ด้วยเหตุที่ต้องเจอกับชีวิตอย่างนี้ เหมือนเป็นปมอยู่ในใจ ถึงกระนั้นเขาไม่ได้เอาปมนี้มาเป็นปมด้อยของตัวเอง แต่กลับใช้มันเป็นปมที่จะผลักดันและพัฒนาตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ เขาจึงบอกกับตัวเองเสมอว่า “ฉันจะต้องรวยให้ได้“

คุณตัน

ชีวิตที่เริ่มต้นจากลูกจ้าง สู่เจ้าของกิจการ (ธุรกิจส่วนตัว) สู่นักธุรกิจและนักลงทุน

คุณตันเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

“ตัวเองไม่ได้มาแนวเรียน แต่รักการทำธุรกิจมากกว่า ชอบทำงาน ชอบเป็นพ่อค้า สมัยเรียนก็ไปทำงานหลายอย่าง“

เขาไม่ได้เป็นนักธุรกิจที่เกิดมาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจ แต่เขาเป็นเพียงคนที่มีความเป็นนักธุรกิจในสายเลือดตั้งแต่เด็ก ใช้ความอยากรวยเป็นตัวผลักดัน ให้ออกจากการเรียนไปหาความฝัน คุณตันจึงออกจากโรงเรียนแล้วพ่อก็พาไปทำงาน เขาเริ่มต้นเส้นทางการทำงานด้วยการเป็นลูกจ้าง เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 17 งานแรกที่เขาทำคือแบกของ ด้วยค่าแรงแค่ไม่ถึงร้อย จนผันตัวมาทำธุรกิจส่วนตัว นั้นคือเปิดร้านขายหนังสือ ซึ่งก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกนะคะ และไม่ได้ทำเพียงธุรกิจอย่างเดียว เพราะนอกจากเปิดร้านหนังสือแล้ว ยังขยายธุรกิจเปิดร้านขนม ร้านกาแฟและร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายเหมือนอย่างทุกวันนี้ อีกทั้งยังมีหนี้ร้อยล้านอีก แต่ด้วยความมานะพยายามและไม่ย่อท้อ พยายามที่จะเพิ่มเงินลงทุนไปพร้อมๆกับการลดหนี้ สุดท้ายสามารถแก้วิกฤติจ่ายหนี้หมดได้ในระยะเวลาเพียง 2 ปี จึงเปิดธุรกิจใหม่อีกอย่างหนึ่งนั้นคือ ธุรกิจร้านถ่ายรูปแต่งงานในกรุงเทพ เป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินไปด้วยดี

คุณตัน

เริ่มต้นแบรนด์ โออิชิ

คุณตันเป็นหนุ่มนักธุรกิจที่จับธุรกิจหลายอย่าง โดยธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของเขาคือ ธุรกิจเครื่องดื่ม คือชาเขียวโออิชิ และน้ำผลไม้ อะมิโน โอเค ซึ่งเดิมทีเขาเริ่มต้นด้วยธุรกิจภัตตาคารบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ “โออิชิ” แล้วขยายธุรกิจเครื่องดื่มเพิ่มเติม ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551 คุณตันก็ขายหุ้นใหญ่ของบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้กับ บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจ และในที่สุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553 เขาก็ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิกรุ๊ป ในวันเดียวกันนั้น ตันก็จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยให้ชื่อว่า บริษัท ไม่ตัน จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ น้ำผลไม้ผสมดับเบิลดริงก์ และชาเขียวอิชิตัน ปัจจุบันอิชิตันก็ได้สร้างยอดขายให้กับคุณตันปีละมากกว่า 6 พันล้านบาท

แรงบันดาลใจที่ได้จากคุณตัน

คุณตันเป็นนักธุรกิจที่ดังเหมือนดารา เพราะเราสามารถเห็นคุณตันได้จากสื่อต่างๆ อีกทั้งยังมีข่าวให้ได้เห็นเสมอๆ คุณตันได้ไปออกรายการและให้สัมภาษณ์หลายช่องมาก ซึ่งแต่ละครั้งที่ให้สัมภาษณ์ทำให้เราได้รับสิ่งต่างๆจากคุณตันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเป็นของเขา เส้นทางธุรกิจ เคล็ดลับความสำเร็จต่างๆ มาถึงตรงนี้ฉันจึงเลือกเอาคำแนะนำบางส่วนจากคลิปสัมภาษณ์ เปิดเคล็ดลับ เทคนิคหาเงินแบบคุณตัน จากรายการ Money Matters EP.44 สรุปได้ดังนี้

1. ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่วิธีการมอง

คุณตันมักบอกว่าเขาเป็นคนชอบแก้ปัญหา เวลาที่เจอปัญหาเขามักจะตื่นเต้นและท้าทายที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่ถูกถามถึงวิธีที่เขาใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆที่เจอคือ เขาจะตอบว่า “มันอยู่ที่วิธีการมอง“ คุณตันมักจะแนะนำให้มองวิกฤติเป็นโอกาส หาโอกาสสร้างสิ่งใหม่ๆจากวิกฤติที่เจอ และจงปลูกฝังความคิด มุมมองของตัวเอง ด้วยความคิดที่ว่า เราไม่ใช่คนที่ลำบากที่สุด เพราะในวันที่เราลำบาก ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกเยอะ ซึ่งคุณตันทำให้นึกถึงประโยคหนึ่งจากหนังสือพ่อรวยสอนลูกที่ว่า “การกระทำไม่สำคัญเท่าวิธีคิด“ ด้วยแนวคิดนี้ทำให้คุณตันสามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆและสามารถประสบผลสำเร็จมาได้จนถึงวันนี้

2. สิ่งที่สำคัญกว่าเงินคือเงินอนาคต

ในยุคที่ทุกคนอยากรวยเร็ว จึงมุ่งเน้นแต่การหาเงิน เราต้องเข้าใจก่อนว่า ความรวยคืออะไร เงินอาจเป็นสิ่งสำคัญก็จริง เพราะหากไม่มีเงินก็เป็นเรื่องใหญ่ แต่เงินที่สำคัญจริงๆก็คือเงินอนาคต ซึ่งเงินอนาคตก็คือความรู้ วิสัยทัศน์ และคอนเนคชั่น เราต้องใช้เงินซื้อสิ่งเหล่านี้มา และสามารถเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้หาเงินได้ตลอดชีวิต คุณตันเคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ถ้าสามารถกลับไปบอกเด็กชายตัน เขาอยากบอกว่าอย่าทิ้งการเรียนเลย เรียนหนังสือ เรียนจนจบบางครั้งก็ไม่สามารถเอาไปใช้เลยน่ะ แต่มันเป็นพื้นฐาน เป็นองค์ความรู้ข้างใน ที่สะสมวิธีคิด ที่ทำให้เราเข้าใจหลักการและแก้ไขปัญหาได้“ ฉันชอบแนวคิดที่คุณตันเปรียบเทียบการเรียนเหมือนการขุดคลองขนาดใหญ่ คุณตันได้กล่าวไว้ว่า “การเรียนเหมือนการขุดคลองขนาดใหญ่ แม้ฝนไม่ตกคลองก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อพายุมาคนที่มีคลองใหญ่ที่สุดจะได้เปรียบ ใครไม่มีคลองหรือล่องน้ำเลยก็จะท่วมง่าย เจ๊งเลย ไม่มีความรู้ ไม่มีพื้นฐาน ก็ไปไม่รอด มีเงินอย่างเดียวไม่มีความรู้ก็หมดเหมือนกัน“ ถือเป็นแนวคิดที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนเลย  แต่ถึงกระนั้นการเรียนอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องมีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ต่างๆด้วย โดยใช้วิธีดู ฟัง รวมไปถึง เที่ยว เขามักได้ธุรกิจใหม่ๆมาจากการท่องเที่ยว นั้นคือการนำเงินอนาคตมาใช้ในการทำเงิน

3. คุณบ้าพอไหม

นี่คือคำแนะนำสุดท้ายจากคุณตัน คนที่อยากรู้คำตอบว่าทำยังไงถึงจะรวย ให้ลองถามตัวเองดูก่อนว่า คุณบ้าพอไหม บ้าที่ว่านี้คือบ้าทำงาน เบื้องหลังของคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆคือความบ้า ให้บ้าสุดๆในสิ่งนั้น แล้วคุณจะเป็นสุดยอดในเรื่องๆนั้นเหมือนเขา

คุณตัน

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ อ่านมาถึงตรงนี้ได้แรงบันดาลใจดีๆบ้างหรือเปล่า สำหรับฉันแล้วได้มากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะแนวความคิดที่ว่า ให้มองคนที่ลำบากกว่าเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ได้แย่ที่สุด และให้มองคนที่ประสบผลสำเร็จกว่าเพื่อบอกกับตัวเองว่า เขาทำได้เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ วิธีการคิด คิดแล้วลงมือทำโดยไม่ย่อท้อ ความฝันคงเป็นจริงสักวัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *